ชายที่สกปรกที่สุดในโลก หรือ อามู ฮาจิ ผู้ปฏิเสธอาบน้ำหลายสิบปี เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี หลังจากที่เขาอาบน้ำครั้งแรกเมื่อเดือนที่ผ่านๆมา
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า อามู ฮาจิ หรือ ชายชาวอิหร่านที่ถูกขนานนามว่าเป็นชายที่สกปรกที่สุดในโลกเสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี หลังจากล้มป่วยเมื่อเดือนที่ผ่านมา
สาเหตุที่ อามู ฮาจิ ถูกเรียกว่าเป็นชายที่สกปรกที่สุดในโลกนั้น เนื่องจากเขาปฏิเสธและไม่อาบน้ำมานานมากกว่าครึ่งศตวรรษ โดยเขากลัวว่าการอาบน้ำนั้นจะทำให้ล้มป่วย ซึ่งชาวบ้านก็พยายามจะหาทางและโน้มน้าวชำระล้างร่างกายของเขามาตลอดมา
อย่างไรก็ดีเมื่อเดือนที่ผ่านมานาย ฮาจิ ทนต่อแรงกดดันไม่ไหว และยอมอาบน้ำเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ก่อนจะล้มป่วยลงในเดือนถัดๆมา และเสียชีวิตในที่สุด
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อามู ฮาจิ เคยให้สัมภาษณ์ว่า อาหารโปรดของเขาคือเนื้อเม่น และเขาอาศัยอยู่รูใต้ดิน ก่อนที่ชาวบ้านจะสร้างกระท่อมอิฐให้ เพราะกังวลถึงความปลอดภัยของเขา โดยเขาเล่าว่า ผิวหนังของเขาปกคลุมไปด้วยเขม่าและหนองจากการไม่อาบน้ำ นอกจากนี้เขาชอบกินเนื้อเน่าและน้ำไม่สะอาดอีกด้วย
ทั้งนี้ยังมีข้อถกเถียงว่า อามู ฮาจิ เป็นผู้ถือครองสถิติไม่อาบน้ำนานที่สุดหรือไม่ เพราะหากย้อนกลับไป 2551 เคยมีชายอินเดียไม่อาบน้ำแปรงฟันมามากกว่า 35 ปี ปัจจุบันไม่มีใครทราบว่าชะตาของชายคนดังกล่าวเป็นอย่างไร
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
