
เรื่องควรรู้สำหรับผู้ชายตั้งแต่วัยเจริญพันธุ์ วิธีสวมถุงยางอนามัย ไม่ใช่แค่แกะซองแล้วรูดถุงยางใส่อวัยวะเพศ ยังมีขั้นตอนอีกมากมายที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้ได้รู้กัน.
ทริปควรรู้เกี่ยวกับการใส่ถุงยางอนามัย
- ก่อนใส่ถุงยางควรเลือกขนาดที่เหมาะสมและถุงยางไม่หมดอายุ (วิธีวัดขนาดถุงยาง อ่านที่นี่).
- บีบกระเปาะ วางถุงยางอนามัยไว้บนหัวองคชาตแล้วม้วนลง เหลือที่ว่างครึ่งนิ้วไว้ที่ส่วนปลาย.
- ห้ามใส่ถุงยางอนามัยซ้อนกันสองชั้นและใช้ถุงยางซ้ำ.
7 ขั้นตอน วิธีใส่ถุงยางอนามัย เซ็กซ์ปลอดภัย ไร้โรค
เมื่อถุงยางอยามัยใช้อย่างถูกต้อง จะมีประสิทธิภาพประมาณ 98% ในการป้องกันการตั้งครรภ์และลดการแพร่เชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs).
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง “ถุงยางจึงมีประสิทธิภาพเพียง 85% ในความเป็นจริงเท่านั้น”.
1. เลือกขนาดถุงยางให้เหมาะสมกับอวัยวะเพศ
ขั้นตอนแรกในการใส่ถุงยางอนามัยคือการเลือกขนาดที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้หลุดออกระหว่างมีเพศสัมพันธ์.
หากถุงยางอนามัยขนาดไม่พอดี มันอาจจะมีประสิทธิภาพน้อยลงและรู้สึกสบายน้อยลง มีโอกาสคับหรือหลวมหลุดได้.
ถุงยางอนามัยมีหลายขนาดเช่น แบบกระชับ ขนาดมาตรฐาน ขนาดใหญ่ และขนาดใหญ่พิเศษ คุณจะรู้ว่าขนาดพอดีตัวหรือไม่เมื่อสวมพอดีตัว แต่ไม่รัดจนรู้สึกอึดอัด.
ข้อสำคัญหากรูดถุงยางอนามัยไปไม่ถึงฐานขององคชาต คุณจะต้องหาขนาดที่ใหญ่กว่านี้.
2. ตรวจสอบวันหมดอายุของถุงยางข้างกล่องหรือซอง
ถุงยางอนามัยส่วนใหญ่มีอายุการเก็บรักษาสามถึงห้าปีถ้าถูกเก็บไว้อย่างเหมาะสมในที่เย็นและแห้ง และไม่โดนแสงแดดโดยตรงหรือความชื้นสูง เมื่อถุงยางหมดอายุประสิทธิภาพในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และตั้งครรภ์จะลดลงมาก ดังนั้นก่อนใช้ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่หมดอายุ.
3. แกะหรือฉีกซองถุงยางด้วยมือ ห้ามกัดใช้ปาก
เมื่อคุณพบขนาดที่เหมาะสมกับน้องชายแล้ว และพิจารณาแล้วว่าถุงยางอนามัยยังไม่หมดอายุ ต้องกดที่ห่อเบาๆ เพื่อให้รู้สึกถึงฟองอากาศ ซึ่งหมายความว่าบรรจุภัณฑ์ไม่บุบสลายและไม่มีการฉีกขาดหรือเจาะทะลุ.
เมื่อเปิดห่ออย่าใช้ฟันหรือกรรไกรเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถุงยางอนามัยขาดหรือเป็นรู จากนั้นดึงออกเบาๆ เพื่อไม่ให้ถุงยางอนามัยฉีกจากการโดนเล็บมือ.
4. วางบนหัวองคชาต
วิธีใส่ถุงยางอนามัย ให้ดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศให้สุดก่อนสวม อวัยวะเพศต้องแข็งตัวเต็มที่ ไม่เช่นนั้นจะสวมได้ยากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะหลุดออกมามากขึ้น ข้อสำคัญ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้บีบปลายกระเปาะซึ่งเหลือพื้นที่ครึ่งนิ้วสำหรับน้ำอสุจิหลังจากการพุ่งออกมา.
5. รูดถุงยางลงครอบคลุมลำอวัยวะเพศ
คลี่ถุงยางอนามัยตามลำขององคชาตไปสุดที่ฐาน ถือปลายถุงไว้ด้วยมือข้างหนึ่งเพื่อดึงอากาศออกจากถุงยางอนามัย นี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะถุงยางอนามัยอาจแตกได้ระหว่างมีเพศสัมพันธ์หากมีอากาศอยู่ภายใน.
ข้อระวัง หากพบว่ารูดถุงยางลงไม่ได้หรือลำบาก เป็นไปได้ว่าสวมถุงยางผิดด้าน ให้ถอดทิ้งแล้วสวมชิ้นใหม่.
6. รีบถอดอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดหลังน้ำแตก
หลังจากที่คุณหลังน้ำอสุจิออกมาแล้ว ให้จับที่ฐานของถุงยางอนามัยในขณะที่องคชาตยังแข็งอยู่ก่อนที่จะดึงออกมาจากช่องคลอดเพื่อให้แน่ใจว่าถุงไม่หลุด มิฉะนั้น น้ำอสุจิอาจหลุดออกมา ซึ่งทำให้คู่ของคุณเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์.
7. ถอดถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี
เมื่อรู้ วิธีใส่ถุงยางอนามัยแล้ว ก็ต้องรู้วิธีถอดที่ถูกต้องด้วยนพซุ่งการถอดถุงยางอนามัยด้วยการจับด้วยทิชชู่เป็นวิธีที่ดีที่สุด รูดออกขณะที่อวัยวะเพศยังแข็งตัว เพื่อป้องกันน้ำอสุจิกระฉอกออกมา จากนั้นให้ทิ้งให้ถูกวิธี.
อ้างอิงจาก : 1
วิธีใช้ถุงยางอนามัย
นอกจากการใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องแล้ว ยังมีเคล็ดลับบางประการที่คุณควรปฏิบัติตามเพื่อการใช้ถุงยางอนามัยอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ.
สิ่งที่ควรทำ: |
สิ่งที่ไม่ควรทำ: |
เก็บถุงยางอนามัยในที่เย็น มืด และแห้ง ความร้อนและความชื้นที่มากเกินไปอาจ ทำให้ถุงยางอนามัย เสียหายและทำให้มีประสิทธิภาพน้อยลง. |
อย่าใช้ถุงยางอนามัยมากกว่าหนึ่งชิ้นพร้อมกัน การเสียดสีระหว่างถุงยางอนามัยจะเพิ่มโอกาสที่ถุงยางอนามัยจะแตก |
ใช้ถุงยางอนามัยใหม่ทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยเป็นแบบใช้ครั้งเดียวและไม่ควรล้างหรือนำกลับมาใช้ใหม่ไม่ว่ากรณีใดๆ |
อย่ากลับมามีเพศสัมพันธ์ถ้าคุณรู้สึกว่าถุงยางแตก จากการศึกษาพบว่าโอกาสที่ถุงยางอนามัยจะแตกจะอยู่ที่ประมาณ0.6%ถึง15 % ใส่ถุงยางอนามัยอันใหม่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ |
ใช้น้ำมันหล่อลื่นที่เป็นน้ำ สารหล่อลื่นที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลักทำให้ถุงยางลาเท็กซ์มีโอกาสแตกหักมากขึ้น |
อย่าใช้ถุงยางอนามัยแบบเดียวกันเมื่อคุณเปลี่ยนจากการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดสวมถุงยางอนามัยใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการนำแบคทีเรียเข้าสู่ช่องคลอด |
ติดตาม The Thaiger บน Google News: