สรุปมาตรการโควิดล่าสุด หลังมติ ศบค. เคาะปรับพื้นที่ โซนสี โควิด ล่าสุด ผ่อนคลายกิจจกรรม ดื่มเหล้าในร้าน ไม่ขยายเวลา WFH ดูทั้งหมด ที่นี่
หลังจากที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันนี้ (20 ม.ค.65) โดยแจ้งว่า ตอนนี้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ที่ประชุมมีมติผ่อนคลายกิจกรรม และปรับโซนสี โควิด ล่าสุด ซึ่งการคลายล็อคทั้งหมดในเที่ยวนี้ มีอะไรบ้าง เรารวบรวมไว้ให้แล้ว
โซนสีโควิด วันนี้ ปรับล่าสุด สีส้มเหลือ 44 จังหวัด
เบื้องต้นที่ประชุมลดพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 69 จังหวัด เหลือเพียง 44 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) เป็น 25 จังหวัด ขณะเดียวกันให้คงพื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) 8 จังหวัด ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.นี้
- พื้นที่สีส้ม จาก 69 จังหวัด เหลือเป็น 44 จังหวัด
- พื้นที่สีเหลือง เป็น 25 จังหวัด
- พื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) 8 จังหวัด
มาตรการโควิด ร้านอาหาร ล่าสุด
ประเด็น “ร้านอาหาร” ทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร
พื้นที่ควบคุม 44 จังหวัด สามารถบริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ (ห้ามการบริโภคสุราและเครื่องแอลกฮอล์ในร้าน) โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.สามารถพิจารณากำหนดมาตรการ และเวลาเพิ่มเติมได้ ตามสถานการณ์ของพื้นที่ได้
ส่วนพื้นที่สีเหลือง และพื้นที่สีฟ้า บริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.สามารถพิจารณากำหนดมาตรการ และเวลาเพิ่มเติมได้ ตามสถานการณ์ของพื้นที่ได้
สำหรับมาตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หรือสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน ทั้งในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวังสูง คือ การจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่เกิน 23.00 น. จากเดิม 21.00 น. ต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และตามมาตรการ COVID Free Setting
มาตรการ work from home ล่าสุด
ทุกพื้นที่ ไม่ขยายเวลา work from home ให้เป็นไปตามความเหมาะสม และการพิจารณาของหน่วยงาน
- มติ ศบค. วันนี้ (20 ม.ค. 2565) เผย ไม่ขยายเวลา WFH สิ้นสุดสิ้นเดือนนี้
- ศบค. เตรียมหารือ กลับมาใช้ Test&Go กระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยว
- ประยุทธ์ หารือ ประชุม ศบค. 20 ม.ค. นี้ ประเมินมาตรการเข้าประเทศ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
