
หลังจากเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา มีการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป ซึ่งคู่ที่น่าสนใจนั้น เป็นการแย่งแชมป์ กลุ่มเอ ระหว่าง ทีมชาติ โปรตุเกส ที่นำทัพมาโดยกัปตันทีม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ทีมชาติ เซอร์เบีย ซึ่งก่อนทำการแข่งขันกันนั้น ทัพฝอยทองได้เปรียบกว่าโดยนำจ่าฝูงของกลุ่ม จากลูกได้เสียที่ดีกว่า และนัดนี้ยังได้เล่นในบ้านตัวเอง จึงขอแค่ผลเสมอก็จะลอยลำ ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก ที่ประเทศกาตาร์ทันที
Just look at Cristiano Ronaldo 😩 pic.twitter.com/tcwX3bayJD
— GOAL (@goal) November 14, 2021
แต่ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทัพฝอยทอง โปรตุเกส แม้จะขึ้นนำเร็วตั้งแต่ 2 นาที แรกจากการทำประตูสุดสวยของ เรนาโต้ ซานเชส แต่ก็โดนตามตีเสมอจาก ดูซาน ทาดิช ในช่วงก่อนจบครึ่งแรก เท่านั้นไม่พอ ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90 ยังมาโดนทีเด็ดของตัวสำรอง อย่าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช โขกประตูชัยช่วงท้ายเกม พาเซอร์เบีย เอาชนะไป 2-1 พร้อมคว้าแชมป์กลุ่มเอ เข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติในทันที
ซึ่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เป็นไฮไลท์สำคัญของนัด เนื่องจากเจ้าตัวกำลังรอคอยทำสถิติไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสมัยที่ 5 แต่ก็ต้องผิดหวังและต้องมาเหนื่อยเพิ่มในการไปเล่นเพลย์ออฟอีกครั้ง
สำหรับเซอร์เบียนั้นถือเป็นทีมจอมแสบของ โปรตุเกส ในการแข่งขันครั้งนี้สุดๆ เนื่องจากในการเจอกันครั้งแรก ของการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม กล่มเอ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็เคยมีเหตุการณ์ที่ โรนัลโด้ ยิงประตูข้ามเส้นไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ให้ประตู จนทำให้ทีมชวดสามแต้ม และส่งผลมาจนถึงเกมล่าสุดนี้ด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=qEuFzsbt-XM
The last time Portugal played Serbia Cristiano Ronaldo was robbed of a fair goal.
Hopefully he gets his revenge tomorrow. pic.twitter.com/9PtjA0YG3c
— The CR7 Timeline. (@TimelineCR7) November 13, 2021
ติดตาม The Thaiger บน Google News: