ฟรอยด์ เปิดใจคดีมอมยานศ.สาว ยืนยันไม่มีเยลลี่กัญชา

ฟรอยด์ เปิดใจคดีมอมยานศ.สาว ยืนยันไม่มีเยลลี่กัญชา
จากกรณีที่นักศึกษาสาว อายุ 22 ปี ฝึกงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.ลาดกระบัง หลังจากวันที่ 12 พ.ย.ไปรับประทานกับรุ่นพี่ และถูกนักแสดงชายอักษรย่อ ฟ. ยื่นขนมเจลลี่ให้ทาน ที่ร้านอาหาร Sweet Pista Pit บริเวณปากซอยลาดกระบัง 38 จากนั้นจึงมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ หัวใจเต้นแรง คล้ายถูกมอมยา ผลตรวจร่างกายพบสารเสพติดกัญชา ทางด้าน ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ได้เข้าให้ปากคำ และปฏิเสธว่าตนไม่ได้ยื่นเยลลี่ให้นศ.สาวกิน หากทำตนเสียหายจะฟ้องกลับ
ล่าสุดวันนี้ (28 พ.ย.) ฟรอยด์ก็ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก ถึงเรื่องดังกล่าว เจ้าตัวบอกว่า ขนมเจลลี่กัญชานั้น ผมยืนยันว่าไม่รู้ ตอนนั้นน้องนศ.บอกแค่หนาวและหน้ามืด ก็งงว่าทำไมพาดพิงมาถึงเรา ทำให้ต้องออกมาปกป้องตัวเองและภาพลักษณ์ เพราะผมเป็นแค่พยานในเหตุการณ์ ตำรวจก็สอบถามเท่านั้น ยังไม่ได้โดนหมายเรียกและแจ้งข้อหา ตัวเองบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว ยังงงว่าขนมมาจากไหน ยืนยันว่าไม่มีซองขนม ตอนนี้เป็นเรื่องของตำรวจที่ต้องสอบสวน
เรื่องฟ้องกลับ ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่ดูอยู่ ภาพลักษณ์ที่เสียไปคงเรียกกลับคืนมาไม่ได้ เพราะอาจมีผลกระทบกับงานในอนาคต เรื่องนี้กระทบกับครอบครัวด้วย เพราะเรารักครอบครัวและเพื่อน ทำให้คนรอบตัวเสียความรู้สึก แต่เราก็ต้องฝ่าฟันเรื่องนี้ ส่วนตัวไม่รู้ เรื่องที่เจอกัญชาในตัวน้อง ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ สำหรับอาหารที่สั่งในร้านก็อาหารปกติ เราก็กินของตัวเอง น้องก็สั่งของเขา เราก็ไม่รู้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้และน้องไปไหนมาก่อน
ยืนยันอีกครั้งไม่มีเจลลี่ เรื่องตอนนี้กระทบผลประโยชน์มาก จึงต้องออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขณะนี้งานยังไม่ยกเลิก แต่แค่ตกลงกันใหม่ ต้องไปถามผู้จัดการส่วนตัว ผมไม่รู้ทำไมน้องทำแบบนี้ ผมไม่โกรธ แต่ตกใจมากกว่า และพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ
ถามว่าเข็ดมั้ย ส่วนตัวเป็นคนเซฟตัวเองอยู่แล้ว ไม่เคยมีเรื่องยาและผู้หญิง หน้าอย่างผมจะไปมอมยาได้ไง จากเหตุการณ์นี้อาจเป็นสิ่งทำให้เราแข็งแรงและโตขึ้น แต่เราไปบังคับความคิดคนอื่นไม่ได้ จากนี้อาจทำให้ต้องระวังตัวเรื่องการไปเจอคนอื่นมากขึ้น ที่ออกมาชี้แจงช้าเพราะผมไม่ใช่ตำรวจ แค่อยากออกมาบอกว่าเป็นพยานเท่านั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีสอบเพิ่ม ซึ่งเรื่องนี้คนที่รู้จักผมดีจะรู้ว่าเป็นคนยังไง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: