รีวิว Maleficent: Mistress of Evil บทสรุปเจ้าหญิงออโรร่า และนางพญาปีศาจ

รีวิว Maleficent: Mistress of Evil บทสรุปเจ้าหญิงออโรร่า และนางพญาปีศาจ
หลังจากทิ้งห่างจากภาคแรกไปนานถึง 5 ปี สำหรับภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูนดิสนีย์เรื่อง Maleficent แต่เป็นการเล่าเรื่องในแบบที่ต่างออกไป ซึ่งตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำรายได้ถึง 758 ล้าน ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในปี 2019 กับ Maleficent: Mistress of Evil มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ
เรื่องราวภาคนี้ หลังจากที่มาเลฟิเซนต์(แองเจลิน่า โจลี่) เป็นแม่ทูนหัวของเจ้าหญิงออโรร่า(แอล ฟานนิ่ง) และอาศัยอยู่ด้วยกันที่อาณาจักรมัวส์ ออโรร่ากลายเป็นราชินีผู้ปกครอง ทางด้านเจ้าชายฟิลลิปส์(แฮริส ดิคคินสัน) ก็ได้ขอเจ้าหญิงออโรร่าแต่งงาน มาเลฟิเซนต์ไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ยอมไปร่วมงานเลี้ยงรับเชิญของพระราชา และราชินี แห่งเมืองอัลสเตด เพราะความรักที่มีต่อออโรร่า
แต่ราชินีอิงกริด(มิเชล ไฟเฟอร์) กลับพูดจายั่วยุจนทำให้มาเลฟิเซนต์โมโห จึงระเบิดพลังออกมาทำให้ประชาชนต่างหวาดกลัวและมองว่าเธอเป็นปีศาจ งานนี้ก็พอจะทราบกันได้แล้วว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
ทางด้านเนื้อเรื่องนั้นทำออกมาค่อนข้างดี และน่าสนใจ เป็นการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ออกไปจากต้นฉบับเจ้าหญิงนิทราอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้ลุ้นตามได้ไม่ยาก แถมยังมีการเล่าเรื่องของพวก ดาร์คเฟย์ เผ่าพันธุ์และต้นกำเนิดของมาเลฟิเซนต์ ทำให้ทราบถึงที่มาที่ไปมากขึ้น และที่ทำให้คาดไม่ถึงคือสงครามในเรื่อง ที่ค่อนข้างดาร์กอยู่พอตัว เพราะปกติหนังดิสนีย์จะขึ้นชื่อว่าไม่มีความรุนแรง และโหดร้ายเลย
นักแสดงก็เอาอยู่อยู่แล้ว สำหรับคุณแม่โจลี่ ที่ออกมาทุกฉากก็สะกดสายตาคนดูได้อย่างอยู่หมัด เพราะสวยมาก และความเข้าถึงบทบาทของโจลี่ ที่ทำให้เราเชื่อว่านี่คือมาเลฟิเซนต์จริงๆ มีทั้งความน่าเกรงขาม และบางทีก็ทำให้เรายิ้มไปกับความน่ารัก จนอยากจะพูดตามว่า well well ส่วนแอล ฟานนิ่งก็มีความน่ารัก สดใส และเคมีเข้ากันดีกับโจลี่มากๆ ด้านมิเชล ไฟเฟอร์ที่รับบทเป็นราชินีใจร้าย ก็ร้ายจนเรารู้สึกหมั่นไส้และไม่ชอบ แต่ก็ต้องยอมรับว่านางสวยสง่าไม่เบา
ทางด้านฉาก และเอฟเฟ็กต์นั้น ภาพสวยงาม อลังการ ตระการตามาก เราจะได้เห็นเหล่าแฟรี่ ภูตจิ๋วสีสันสดใส ในอาณาจักรมัวส์ และอาณาจักรอัลสเตด ทุกๆ ฉากน่าตื่นตาตื่นใจ และทำออกมาดีทีเดียว หรือแม้แต่ชุด เครื่องแต่งกายก็สวยงาม โดยเฉพาะชุดของเจ้าหญิงออโรร่า และชุดของขุ่นแม่มาลีก็ปังไม่แพ้กัน สลัดภาพลักษณ์ต่างจากภาคแรกไปเลย
ภาพจาก: Rottentomatoes
ติดตาม The Thaiger บน Google News: