เปิดประวัติ “ธาริต เพ็งดิษฐ์” ชีวิตสุดพลิกผัน อธิบดีDSI-ต้องคดี-ถูกริบเครื่องราช : ข่าวการเมือง
ขอบคุณภาพจาก : แนวหน้า
ธาริตเพ็งดิษฐ์ – จากกรณีวันที่ 11 ก.ค. ราชกิจจานุเบกษาประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก มหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก และเหรียญจักรพรรดิมาลาของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
อันเนื่องมาจาก ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกคดีความผิดฐานหมิ่นประมาทและคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ รวม ๒ คดี และถูกลงโทษไล่ออกและปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามกฎหมายว่าด้วย ระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือตามกฎหมายอื่น โดยคำสั่งอันถึงที่สุด อันเป็นเหตุแห่งการเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามข้อ ๖ และข้อ
๗ (๒) และ (๔) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ และ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว
ทำให้หลายคนสงสัยหรือยังไม่ทราบว่า คดีความผิดฐานหมิ่นประมาทและคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ รวม ๒ คดี ที่ทำให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ต้องโทษจำคุกคือคดีอะไร
ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 ขณะธาริต เพ็งดิษฐ์ดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ (2552-พ.ค. 2557) ถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการที่นายธาริต ให้สัมภาษณ์ กล่าวหา นายสุเทพ เทือกสุบรรณว่าเป็นผู้สั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่ง จากเป็นรายภาคให้เป็นรวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว
ผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า ศาลชั้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ชั้นฎีกานายธาริตได้ยื่นคำให้การใหม่เป็น “ขอรับสารภาพผิด” และขอให้ศาลลงโทษสถานเบา สุดท้ายศาลสั่งจำคุก 1 ปีไม่รอลงอาญา เมื่อช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา
ความพลิกผันอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนขั้วการเมืองเมื่อเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 โดยคสช ทำให้ตำแหน่งอธิบดี DSI ยาวนานกว่า 5 ปี ของนายธาริตต้องหลุดหายไป และถูกย้ายไปประจำตำแหน่ง ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ภาพจาก : Nation
ในปี พ.ศ. 2558 นายธาริตถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สั่งอายัดทรัพย์ จำนวน 90,260,687 บาท มีการแจ้งข้อกล่าวหาเขาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีถัดมานายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีกล่าวหาว่านายธาริตร่ำรวยผิดปกติ พร้อมด้วยนายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงมติที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ 7:0 ชี้มูลความผิดนายธาริตในคดีดังกล่าว พร้อมส่งสำนวนต่ออัยการสูงสุดให้ยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจให้พิพากษาให้ทรัพย์สินของนายธาริต คู่สมรส และผู้เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 346,652,588 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติว่า สมควรลงโทษ นายธาริต โดยการ ลงโทษไล่ออกจากราชการ
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560 ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งจำคุก 2 ปี นาย ธาริต แต่ลดโทษเป็นรอลงอาญา 2 ปีกรณี ย้าย พ.อ.ปิยะวัฒน์ กิ่งเกตุ โดยมิชอบ
ภาพจาก : ThaiPublica
ด้านประวัติการทำงาน
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ต่อมาปี 2526 เป็นเนติบัณฑิตไทย และปี 2532 ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ก่อนรับราชการอัยการ นายธาริตเป็นผู้ช่วยอาจารย์สอนกฎหมาย จนกระทั่งได้พบกับนายคณิต ณ นครในฐานะอาจารย์พิเศษ จึงแนะนำให้ธาริตไปสอบอัยการหลังเรียนจบนิติศาสตร์มหาบัณฑิต และธาริตก็สอบได้เป็นอัยการ จนกระทั่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ได้ระดมนักกฎหมายหลายคน เช่น นายคณิต ณ นคร, นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม ร่วมก่อตั้งพรรค มีนายธาริตรวมอยู่ด้วย
หลังจากที่พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้ง ธาริตได้รับแต่งตั้งให้ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ทำงานกับนพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองนายกรัฐมนตรี ข
ภายหลังจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการของหน่วยงานนี้เป็นคนแรก
เมื่อมีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ธาริตได้โอนมาดำรงตำแหน่งรองอธิบดี และต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
