ปีที่แล้ว (2018) ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าปริมาณขยะพลาสติกมีมากถึงประมาณ 2 ล้านตันต่อปี โดยประเทศไทยปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลมากเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ขณะที่ประชาชนในกรุงเทพฯ ใช้ถุงพลาสติกเฉลี่ย คนละ 8 ใบต่อวัน ทำให้มีขยะพลาสติกมากถึง 80 ล้านใบต่อวัน
แต่ขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่มีการออกกฎหมายมาบังคับใช้เกี่ยวกับการใช้ถุงพลาสติก เหมือนอย่างในหลายประเทศทั่วโลก ที่เริ่มตื่นตัวมีการออกกฎมาบังคับใช้ อาทิ ห้ามร้านสะดวกซื้อให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้า บางประเทศรุนแรงถึงขั้น ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า สต็อก จำหน่าย พร้อมกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนไว้อย่างชัดเจน
ในแถบเอเชีย ประเทศที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกแล้วคือ ฮ่องกง จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา อินเดีย อิสราเอล ไต้หวัน และ บังกลาเทศ ส่วนประเทศในแถบยุโรปที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด คือ เดนมาร์ก อังกฤษ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ อิตาลี สวิซเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ โรมาเนีย และ เยอรมัน
ขณะที่ทวีปอเมริกา มี รัฐแคลิฟอร์เนีย แห่งสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก โคลัมเบีย และ อาร์เจนตินา และประเทศในแถบโอชิเนีย ได้แก่ ประเทศนิวซีแลนด์ และ ออสเตรเลีย
ที่น่าสนใจคือประเทศเคนยา มีการบังคับใช้กฎหมายห้ามการใช้ถุงพลาสติกอย่างเด็ดขาด โดยกำหนดบทลงโทษสูงสุดคือ จำคุก 4 ปี หรือปรับเงินราว 1.25 ล้านบาท
ส่วนในประเทศไทย มาตรการการลดใช้ถุงพลาสติกยังเป็นแค่การรณรงค์ ให้ประชาชนหันมาใช้ถุงผ้าแทนถึงพลาสติก ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯได้ กำหนดอุทยานแห่งชาติ 154 แห่ง ชายทะเล 24 จังหวัด รวมถึงสวนสัตว์ทั่วประเทศทั้ง เขาดิน เขาเขียว เชียงใหม่ นครราชสีมา สงขลา อุบลราชธานี ขอนแก่น และคชอาณาจักรสุรินทร์ จะเป็นพื้นที่ปลอดถุงพลาสติกหูหิ้ว-โฟมบรรจุอาหาร
รายละเอียดเพิ่มเติม : mthai.com
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
